วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ก้าวแรกสู่มหาลัย กับการคาดหวัง ในอนาคต


       ความคาดหวังในชีวิตของผมคือ

๑. เรียนให้จบระดับมหาลัย
๒. เป็นครูให้ได้ตามใฝ่ฝัน
๓. สอนในท้องถิ่นที่รักษ์และผูกพันธ์
๔. สร้างฐานะนั้นให้มั่นคง
๕. เลี้ยงดูพ่อแม่ยามแก่เฒ่า
๖. มีลูกเฝ้าใจยามเหนื่อยล้า
๗. ส่งเสียลูกเรียนถึงปริญญา
๘. ใช้ชีวาให้สุขใจในบั้นปลาย

       เมื่อผมได้เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ผมเลือกที่จะอยู่หอพักชายเอราวัณซึ่งเป็นหอพักในมหาวิทยาลัย เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในครอบครัว เพราะพื้นฐานทางครอบครัวผม ก็ไม่ได้ร่ำรวย

       ความคาดหวังย่อยๆของการเรียนในมหาวิทยาลัยของผมคือ มีเพื่อนดี อาจารย์ใจดี สอนเข้าใจง่าย การมีโอกาศได้ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน
 

ความภูมิใจก่อนเดินเข้าสู้รั้วมหาลัย

 มังกรขี้เลื่อย

       ในขณะที่ผมเรียนมัธยมอยู่นั้นผมได้เป็นแกนนำนักเรียนในการทำโครงการต่างๆ เช่น โครงงานคุณธรรม แต่ที่ภูมิใจที่สุดคือ โครงการปั้นมังกรจากขี้เลื่อย ซึ่งได้เป็นตัวแทนของจังหวัดนครพนม จัดแสดงที่งานศิลปะหัตถกรรมนักเรียน ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
    

เป็นส่วนหนึ่งในโครงการพระธรรมฑูตสัญจร

       พระครูอรุณสุตาภรณ์(ขออนุญาตเอ่ยนาม) เจ้าอาวาสวัดจอมแจ้ง เป็นพระธรรมฑูตประจำอำเภอปลาปาก ได้ดำเนินงานพระธรรมฑูตสัญจร ซึ่งจะมีกลุ่ม ศิษย์วัดจอมแจ้งเป็นกำลังสำคัญในการดำเนินงาน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีผม ที่ปฏิบัติหน้าที่จิตอาสาในการช่วยเหลืองานต่างๆ ของท่านพระครูอรุณสุตาภรณ์ (ขออภัยที่ไม่สามารถเปิดเผยภาพได้ เนื่องจากไม่ได้รับอนุญาติจากท่านท่านพระครูอรุณสุตาภรณ์)

วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คำว่าสังกะลี คือ คนดีของสังคม

สังกะลี มีที่มา

พี่น้องร่วมวัด
       คำว่าสังกะลีนั้น เป็นคำที่คนอิสานใช้เรียกเด็กวัดนั่นเอง ซึ่งตัวผมก็เป็นหนึ่งในนั้น มีความสนใจในธรมมะ แต่ไม่อยากบวชเรียนเพราะกลัวปฏิบัติไม่ได้ แล้วมันจะเป็นบาปเปล่าๆ

ครั้งแรกที่ผมเข้าวัด

       ในวันนั้น(จำวันที่ไม่ได้) เขามีประเภณีเลี้ยงผี(ผีฟ้า) ของหมู่บ้าน เพื่อนได้ชวนผมไปเล่นที่วัด และได้พบกับเจ้าอาวาสวัดในวันนั้น พอท่านได้สนทนาด้วย คุณเชื่อไหม ผมมีความรู้สึกเหมือนกับอยากคุยกับท่านบ่อยๆ นับแต่นั้นมาผมก็ไปเล่นที่วัดเป็นประจำ เพื่อฟังธรรมะ ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนิทานชาดก พุทธประวัติ ซึ่งสำหรับผมในตอนนั้นมันเป็นเรื่องที่สนุกสนานมาก โดยหารู้ไม่ว่าผมได้ซึมซับเอาหลักธรรมะผ่าน เรื่องเล่าต่างๆ ของท่านเจ้าอาวาสวัด อย่างช้าๆ(เหมือนผมตอแหลเลยว่าไหม)

กำเนิดศิษย์จอมแจ้ง

ตัวผมเอง
โจ หลานเจ้าอาวาส
       ผมลืมบอกวัดที่ผมไปนั้นชื่อว่า วัดจอมแจ้ง บ้านศรีธน ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้านนั่นแหละ ซึงโดยปกติแล้วเหล่าเด็กวัดทั้งหลายนั้น จะอยู่ในการดูแลของผม ซึ่งเป็นพี่คนโต กับโจ ซึ่งเป็นรุ่นน้องผม ๑ ปี และเป็นหลานเจ้าอาวาสด้วย ผมกับโจ ได้พากันคิดชื่อกลุ่มขึ้นมาว่า ศิษย์วัดจอมแจ้ง และได้มีการทำกิจกรรมพัฒนาวัด โดยร่วมกับเยาวชนในหมู่บ้านกันอยู่เรื่อยมา พร้อมทั้งยังเป็นกำลังสำคัญในการ ช่วยเหลือโครงการพระธรรมทูต ของท่านเจ้าอาวาสวัดอีกด้วย

ภูมิหลังของคนๆนี้


ภูมิหลังของคนๆนี้

จากรั้วมัธยม สู่รั้มมหาลัย

       ผมมีชื่อว่า นายธีรยุทธ บรรจง มีชื่อเล่นว่า ยุทธ ครับ (จริงๆแล้วชื่อเล่นผมคือ อ๊อฟ ครับ แต่พอมาอยู่ที่มหาลัยแล้ว ดันมีอ๊อฟอีกคนในสาขารุ่นเดียวกัน อ่าวซวยแล้ว ผมเลยให้เกียรติอ๊อฟผู้อาวุโสกว่า ซื่งอายุมากกว่าผมสองปี โดยที่ผมได้เปลี่ยนเป็น ยุทธ ครับ จะได้ไม่สับสนในสาขา)
       ผมอยู่ที่ เลขที่ ๑๓๖ ม. ๗ บ้านศรีธน ตำบลโคกสว่าง อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม
       ผมจบจากโรงเรียนโคกสว่างประชาสรรค์ ตำบลโคกสว่าง อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม
       วันที่ ๒๗ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ผมก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เพื่อเตรียมตัวเป็นนักศึกษา โดยอาศัยอยู่ที่ หอพักชาย เอราวัณ